โปรแกรมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2021/22
ระหว่าง ลีดส์ พบ ลิเวอร์พูล
วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน 2564 เวลา 22:30 น
สนาม : เอลแลนด์ โร้ด

ฟอร์มการเล่น 5 นัดหลังสุด

ลีดส์ :

• 29/08/21 เสมอ เบิร์นลี่ย์ 1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
• 25/08/21 ชนะ ครูว์ อเล็กซานดรา 3-0 (เหย้า) คาราบาว คัพ
• 21/08/21 เสมอ เอฟเวอร์ตัน 2-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
• 14/08/21 แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-5 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
• 08/08/21 เสมอ บียาร์เรอัล  2-2 (สนามกลาง) ฟุตบอลอุ่นเครื่อง

ลิเวอร์พูล :

• 28/08/21 เสมอ เชลซี 1-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
• 21/08/21 ชนะ เบิร์นลีย์ 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
• 14/08/21 ชนะ นอริช 3-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
• 10/08/21 ชนะ โอซาซูนา 3-1 (เหย้า) ฟุตบอลอุ่นเครื่อง
• 08/08/21 เสมอ แอท.บิลเบา 1-1 (เหย้า) ฟุตบอลอุ่นเครื่อง

สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุด  

• 20/04/21 ลีดส์ เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 : พรีเมียร์ลีก
• 12/09/20 ลิเวอร์พูล ชนะ ลีดส์ 4-3 : พรีเมียร์ลีก
• 30/11/16 ลิเวอร์พูล ชนะ ลีดส์ 2-0 : ลีกคัพ
• 23/09/09 ลีดส์ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 : ลีกคัพ
• 29/02/04 ลีดส์ เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 : พรีเมียร์ลีก

สภาพความพร้อม ลีดส์

ฟอร์มของลีดส์ดูจะยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางสักเท่าไรในช่วงออกสตาร์ท 3 นัดที่ผ่านมา โดยทีมยูงทองทำผลงานเสมอ 2 แพ้ 1 และยังไม่ชนะใครเลย แถมเกมนี้ต้องมาเจอของแข็งอย่าง ลิเวอร์พูล ด้วย

ส่วนสภาพทีมในเกมนี้ ลีดส์ จะขาดเพียงกองหลัง โรบิน ค็อค ที่บาดเจ็บ ขณะที่ขุมกำลังที่เหลือพร้อมลงสนามทั้งหมด นำโดยแกนหลักชุดเดิม อาทิ เลียม คูเปอร์, คาลวิน ฟิลลิปส์, สจวร์ต ดัลลัส, ราฟินญ่า และ แพทริค แบมฟอร์ด นอกจากนี้ยังมี แดเนียล เจมส์ ปีกตัวใหม่ ที่เพิ่งย้ายมาจากแมนฯ ยูไนเต็ด เป็นอีกหนึ่งของเลือกให้กุนซือ มาร์เซโล บิเอลซ่า ใช้บริการได้

สภาพความพร้อม ลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูลรั้งอันดับ 7 ของตาราง โดยมีอยู่ 7 แต้มจาก 3 นัด ซึ่งทีมหงส์แดงมีโอกาสทะยานขึ้นไปเป็นจ่าฝูงทันที หากว่าเอาชนะ ลีดส์ ด้วยผลต่างเกิน 3 ประตูขึ้นไป ซึ่งจะทำให้ลิเวอร์พูลเก็บเพิ่มเป็น 10 แต้มเท่ากับ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่จะมีผลต่างประตูได้-เสียที่ดีกว่า

เกมนี้ ลิเวอร์พูล มีผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ เพราะไม่ใช่ตัวหลักของทีมอยู่แล้ว เช่น ทาคุมิ มินามิโนะ, เจมส์ มิลเนอร์ และ เนโก้ วิลเลียมส์ รวมถึง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ที่ต้องรอเช็กสภาพร่างกายอีกครั้ง อย่างไรก็ดี หากฟีร์มิโน่ไม่พร้อมลงสนาม พวกเขาก็ยังมีทั้ง ดิโอโก้ โชต้า, ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงเป็น 3 ประสานแนวรุกต่อไป

บทวิเคราะห์

การเก็บได้เพียง 2 แต้มจากการออกสตาร์ท 3 นัด ไม่ใช่ผลงานที่น่าประทับใจเลยของทัพนักเตะยูงทอง โดยเฉพาะเกมรับอันน่าเป็นห่วง หลังจากโดนคู่แข่งเจาะตาข่ายไปแล้วถึง 8 ลูกจาก 3 นัดที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะแท็คติกเปิดหน้าลุยของ บิเอลซ่า ซึ่งทำให้เกมรับมีช่องโหว่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ขณะที่ ลิเวอร์พูล สภาพทีมค่อนข้างลงตัวกว่า ทั้งเกมรับที่ได้ผู้เล่นตัวหลักหายเจ็บกลับมาครบแล้ว ส่วนแดนกลางและแนวรุก ถึงแม้จะมีผู้เล่นบาดเจ็บบ้าง แต่ขุมกำลังที่มีอยู่ก็เพียงพอให้กุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ เลือกใช้งานได้อย่างไม่ต้องกังวล ถึงเกมนี้ทีม “หงส์แดง” จะออกมาเล่นเป็นทีมเยือน แต่องค์ประกอบต่างๆ ดูแข็งแกร่งกว่าพอสมควร ยิ่งเจ้าถิ่นมีจุดอ่อนอยู่ที่เกมรับ คงไม่สามารถต้านเกมรุกอันจัดจ้าน ซึ่งมีทั้ง โชต้า, ซาล่าห์ และมาเน่ สุดท้ายคงเป็นลิเวอร์พูลี่บุกมากระชาก 3 แต้มกลับแอนฟิลด์ได้สำเร็จ